รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ใช้มาตรการควบคุมโรคครั้งใหม่ทั่วประเทศเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังพบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

สำนักข่าวเอพีรายงานจากกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ว่า ในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีวาระพิเศษเมื่อวันอาทิตย์ รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ตัดสินใจใช้มาตรการควบคุมโรคครั้งใหม่ทั่วประเทศเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยบังคับให้ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เพราะตัวเลขการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ทำให้รัฐบาลแสดงความวิตกกังวลอย่างยิ่ง

มาตรการควบคุมโรคดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 19 ต.ค.เป็นต้นไป โดยบังคับให้มีการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าปกปิดใบหน้าและจมูกในที่สาธารณะทุกที่ที่เข้าได้ ไม่ว่าจะเป็นสถานีรถไฟทั้งหมด สนามบิน สถานีรถบัสและรถราง ข้อบังคับนี้รวมถึงโรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก ห้างสรรพสินค้า ห้องสมุด ศาสนสถาน และโรงแรม เป็นต้น

นอกจากนั้นการรวมตัวกันเกิน 15 คนในที่สาธารณะก็เป็นข้อห้าม และกิจกรรมส่วนตัวต่าง ๆ ก็ห้ามรวมตัวกันเกิน 15 คนเช่นกัน

จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่มีประชากรทั้งหมด 8.5 ล้านคนนั้นพบว่าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยสถิติล่าสุดรายวันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาพบว่ามีผู้ติดเชื้อ 3,105 คน รวมเป็นติดเชื้อสะสม 74,422 คน และเสียชีวิต 1,823 คน